24 กันยายน 2567
การตรวจสมรรถภาพหัวใจและปอดด้วยการออกกำลังกาย (Cardio Pulmonary Exercise Test CPET) เป็นวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีในการตรวจวัดอัตราการเผาผลาญออกซิเจนสูงสุดของร่างกายขณะออกกำลังกาย (VO2 Max) ซึ่งจะสามารถแสดงค่าตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจและปอด เช่น อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดและอัตราการหายใจสูงสุดขณะออกกำลังกาย รวมถึงปริมาตรอากาศที่ใช้ในการหายใจออกกำลังกายได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการออกกำลังกายของผู้ทดสอบได้มากขึ้น
VO2 Max คืออะไร และสำคัญอย่างไร?
VO2 Max หรือ Maximal Oxygen Consumption คือ อัตราการใช้ออกซิเจนสูงสุดของร่างกายในขณะออกกำลังกาย ค่านี้เป็นตัวบ่งบอกความฟิตของร่างกายและความสามารถในการออกกำลังกายของผู้ทดสอบในช่วงเวลานั้นๆ การทดสอบ VO2 Max ทำได้โดยการออกกำลังกายพร้อมกับวัดปริมาณก๊าซที่ผู้ทดสอบหายใจเข้า–ออก นอกจากนี้ ยังสามารถบ่งบอกถึงการทำงานของระบบเผาผลาญอาหาร ระบบการหายใจ และระบบหลอดเลือดหัวใจ อีกทั้งยังช่วยในการวางแผนการฝึกซ้อม (Heart Rate Zone and Training Plan) การวิ่ง และการออกกำลังกายอื่นๆ ยิ่งค่า VO2 Max สูงเท่าไร ก็แสดงถึงความฟิตและความแข็งแรงของร่างกายมากเท่านั้น
กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม
- นักวิ่งสมัครเล่นที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการลงแข่งขันใหญ่ และต้องการวางแผนการฝึกซ้อมอย่างเหมาะสม
- บุคคลที่ออกกำลังกายเป็นประจำและต้องการประเมินความฟิตของตนเอง
- นักกีฬามืออาชีพ ที่ต้องการวางแผนการฝึกให้ทะลุขีดจำกัดของตัวเอง
- ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายมาเป็นเวลานานและต้องการกลับไปออกกำลังกายอีกครั้ง
- ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ที่เคยมีภาวะหัวใจล้มเหลวที่ต้องการตรวจสอบร่างกาย
- ผู้ที่มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจและปอด
- ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือมีค่า BMI มากกว่า 23
ขั้นตอนการทดสอบ
การทดสอบมักดำเนินการบนลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill) หรือจักรยานอยู่กับที่ (Stationary Bike Cycling) ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ทดสอบ โดยผู้ทดสอบจะสวมหน้ากากเพื่อวัดปริมาณก๊าซที่หายใจเข้า–ออก ใส่แถบคาดหน้าอกเพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และติดอุปกรณ์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG 12 leads) ใช้ระยะเวลาในการทดสอบโดยประมาณ 30 นาที และพบแพทย์เพื่อสรุปผลการทดสอบประมาณ 30 นาที โดยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้
1. ยืน หรือนั่งนิ่งๆ หายใจเข้า–ออกตามปกติ เพื่อประเมินภาวะปกติก่อนออกกำลังกาย
2. เริ่มเดิน หรือปั่นจักรยานเบาๆ เพื่ออบอุ่นร่างกาย (Warm Up)
3. เริ่มทดสอบ โดยเครื่องจะปรับระดับความหนักของการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นตามโปรแกรม ขณะที่ผู้ทดสอบเดิน หรือปั่นจักรยานจะมีการบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ พร้อมทั้งสังเกตอาการของผู้ทดสอบตลอดเวลา
4. ผู้ทดสอบจะออกกำลังจนถึงระดับที่ออกแรงเต็มที่ หลังจากถึงจุดที่ออกแรงเต็มที่ แพทย์จะปรับเครื่องให้ช้าลง โดยผู้ทดสอบยังจำเป็นต้องค่อยๆ เดิน หรือปั่นแบบช้าๆ จนกระทั่งเครื่องหยุด ซึ่งแพทย์จะยังคงบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ พร้อมวัดความดันโลหิตเป็นระยะต่อไปจนครบ 3-5 นาที หรือนานกว่านั้นหากพบความผิดปกติ
การทดสอบ VO2 Max มีบทบาทสำคัญในทางการแพทย์ โดยมีข้อบ่งชี้การใช้งานดังนี้
- จำแนกความเสี่ยงและพยากรณ์โรค : ใช้ประเมินความเสี่ยงและพยากรณ์โรคในกลุ่มผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว เพื่อประเมินความพร้อมก่อนการผ่าตัด
- การกำหนดโปรแกรมการออกกำลังกาย : ใช้ในการจัดโปรแกรมออกกำลังกายเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ป่วยกลุ่มต่างๆ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน (DM) ความดันโลหิตสูง (HT) ไขมันในเลือดสูง (DLP) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD)
- ประเมินผลหลังการรักษา : ใช้ในการติดตามประเมินผลหลังการรักษา
- ประเมินความฟิตของร่างกาย : ใช้ในการวัดสมรรถภาพทางกายหรือความสามารถในการออกกำลังกาย
- การวินิจฉัยแยกโรค : ใช้ในการหาสาเหตุของภาวะเหนื่อย หรือภาวะหายใจลำบาก เพื่อแยกโรค
การตรวจ Cardio Pulmonary Exercise Test (CPET) เป็นการทดสอบที่สำคัญในการประเมินสมรรถภาพของหัวใจและปอด โดยการวัดค่า VO2 Max ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความฟิตของร่างกาย ช่วยให้คุณเข้าใจถึงขีดจำกัดของตัวเอง เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถใช้วางแผนพัฒนาการฝึกซ้อมเพื่อทะลุขีดจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน พร้อมดูแลในทุกขั้นตอนของการตรวจ ตั้งแต่ก่อนตรวจ ขณะตรวจ และหลังการตรวจ ด้วยทีมสหสาขาที่มีความชำนาญ ทั้งแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจและหลอดเลือด นักกายภาพบำบัด แพทย์ด้านเวชศาสตร์การกีฬา และนักกำหนดอาหาร ที่พร้อมให้คำแนะนำและออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล
แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2816102